การกลืนสิ่งแปลกปลอมลงสู่ทางเดินอาหารสามารถพบได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เด็กมักกลืนโดยไม่ตั้งใจ มักพบในกลุ่มอายุ 1-5 ปี.1,2 ผู้ใหญ่สามารถพบได้โดยที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจ โดยกลุ่มที่มีความเสี่ยง ได้แก่ ผู้สูงวัย, ผู้มีความรู้สึกตัวผิดปกติ (เช่น dementia, เสพติดสารมึนเมา เป็นต้น), ผู้ที่ใส่ฟันปลอม3 (ความรู้สึกบริเวณเพดานปากลดลง ทำให้อาจจะกลืนสิ่งแปลกปลอมได้โดยไม่รู้สึก), ผู้ป่วยทางจิต และนักโทษ1,3,4 (เพราะไม่อยากถูกคุมขังหรือลงโทษในคุก).

ประมาณร้อยละ 90 ของผู้ป่วย สิ่งแปลกปลอมผ่านออกจากร่างกายได้เองโดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายใดๆ จะมีเพียงประมาณร้อยละ 10 ที่ต้องเอาออกโดยการส่องกล้อง และมีเพียงร้อยละ 1 เท่านั้นที่ต้องผ่าตัด.1-3

ชนิดของสิ่งแปลกปลอม
เหรียญเป็นสิ่งแปลกปลอมที่พบบ่อยที่สุดในเด็ก ส่วนในผู้ใหญ่ ก้อนอาหารอุดกั้นเป็นสิ่งแปลกปลอมที่พบบ่อยที่สุด.1 การจำแนกชนิดของสิ่งแปลกปลอมที่กลืนเข้าไปมีส่วนช่วยในการตัดสินใจในการรักษา โดยทั่วไปควรแยกวัตถุเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ ได้แก่

  • สิ่งแปลกปลอมลักษณะทู่
  • สิ่งแปลกปลอมลักษณะแหลมหรือมีคม เช่น ไม้จิ้มฟัน, กระดูกไก่, เข็ม, ใบมีดโกน เป็นต้น.
  • แบตเตอรี่ขนาดต่างๆ ได้แก่ ขนาดเท่าเม็ดกระดุม, AA และ AAA พบว่าร้อยละ 10 ของผู้ป่วยที่กลืนแบตเตอรี่ขนาดเท่าเม็ดกระดุมจะมีอาการ โดยที่ก่อให้เกิดปัญหามักมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางมากกว่า 21 มิลลิเมตร3 การที่แบตเตอรี่มีสารละลายด่างเข้มข้น ได้แก่ NaOH หรือ KOH เมื่อรั่วจะกัดกร่อนเนื้อเยื่อให้เหลวอย่างรวดเร็ว.1,3 นอกจากนี้ แบตเตอรี่ยังอาจทำลายเนื้อเยื่อโดยแรงกดเบียด (pressure necrosis) หรือโดยการเผาไหม้ด้วยกระแสไฟฟ้าอ่อนๆได้ด้วย.3

อาการและอาการแสดง
เมื่อมีสิ่งแปลกปลอมติดในหลอดอาหารผู้ป่วยจะแสดงอาการ ได้แก่ กลืนลำบาก, เจ็บขณะกลืน, เจ็บใต้ sternum, ไม่สบายคอหอย, น้ำลายสอ, อาเจียน หรือสำลัก และอาจหายใจผิดปกติ ได้แก่ stridor, ไอ, choking และ respiratory distress ได้โดยเกิดจากวัตถุอยู่ในหลอดอาหารส่วนต้นกดหลอดลมที่อยู่ด้านหน้า4,5 หรืออาจจะเกิดจากมีวัตถุในทางเดินหายใจ.
การกลืนสิ่งแปลกปลอมในเด็กมักมีผู้พบเห็น บางครั้งไม่มีผู้พบเห็น แต่ถ้าเด็กมีอาการที่ชวนสงสัย ได้แก่ สำลัก, อาเจียน, น้ำลายมีเลือดปน, หายใจติดขัด, ไอเรื้อรัง, ไม่ยอมกินอาหาร, wheezing, stridor หรือ retraction จะต้องนึกถึงภาวะนี้ด้วย.1,5
นอกจากนี้ ในผู้ป่วยบางรายอาจไม่มีอาการ ใดๆ ก็ได้ ดังนั้น เพียงประวัติที่ชวนสงสัยหรือมีการหายใจผิดปกติที่ไม่รู้สาเหตุ โดยเฉพาะในเด็กหรือผู้ใหญ่ที่ความรู้สึกตัวผิดปกติ ก็ให้เริ่มต้นทำการสืบค้นได้เลย.6

การตรวจร่างกายจะต้องเริ่มจากในปากและช่องคอเสมอ6 โดยเฉพาะถ้าตำแหน่งที่ชี้อยู่บริเวณ suprasternal notch ซึ่งการตรวจที่ห้องฉุกเฉิน สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้ถึงตำแหน่งต่ำสุดที่ hypopharynx (ก่อนจะถึงตำแหน่งของกระดูกอ่อน cricoid และกล้ามเนื้อ cricopharyngeus ที่เป็น จุดเริ่มต้นของหลอดอาหาร) ก่อนทำการตรวจจะต้อง เตรียมเครื่องมือที่ใช้ตรวจและนำวัตถุแปลกปลอมออกมา ได้แก่ ไฟส่องที่สว่างเต็มที่, ยาชาเฉพาะที่แบบพ่นที่คอ, ไม้กดลิ้น, indirect laryngeal mirror, direct laryngoscope และ forceps (Crocodile และ Magill) ให้พร้อมที่จะนำสิ่งแปลกปลอมออกได้ทันที ที่พบ.

ภาวะแทรกซ้อน
เมื่อสิ่งแปลกปลอมผ่านลงสู่กระเพาะอาหาร อาการต่างๆ ก็จะหายไปอย่างรวดเร็ว ยกเว้นว่าเกิดภาวะแทรกซ้อนขึ้น ภาวะแทรกซ้อนที่สามารถพบได้ ได้แก่

  1. การอุดตัน อาจเกิดที่ใดก็ได้ในทางเดินอาหาร แต่มักจะเกิดที่ pylorus, duodenal C-loop, ligament of Treitz และ ileocecal valve.
  • ถ้าเกิดที่หลอดอาหาร จะทำให้ผู้ป่วย ไม่สามารถกลืนอะไรได้เลยรวมถึงน้ำลาย ทำให้เสี่ยงต่อการสำลักสารคัดหลั่งได้ถ้าผู้ป่วยไม่สามารถจัดการกับน้ำลายตัวเองได้.
  • ถ้าเกิดที่กระเพาะอาหาร, ลำไส้เล็ก หรือลำไส้ใหญ่ จะมีอาการปวดท้อง, ท้องอืด หรืออาเจียน.
  1. การทะลุของทางเดินอาหาร อาจเกิดที่ใดก็ได้ แต่หลอดอาหารและ terminal ileum เป็นตำแหน่งที่พบบ่อยที่สุด.1,3,4
  • ถ้าเกิดที่หลอดอาหาร จะมีอาการไข้สูง กลืนเจ็บอย่างมาก และเจ็บปวดหน้าอกทะลุ หลัง.
  • ถ้าเกิดที่กระเพาะอาหาร, ลำไส้เล็ก หรือลำไส้ใหญ่ จะมีอาการไข้, ปวดท้องร่วมกับการตรวจหน้าท้องพบลักษณะของช่องท้องอักเสบเฉพาะที่หรือทั่วไป.
  1. การบาดเจ็บเยื่อบุ ซึ่งจะมีอาการแสดง ได้แก่ hematemesis, melena หรือ hematochezia ถ้าไม่ได้รับการรักษาจะทำให้เกิดการทะลุ, ตีบตัน หรือ fistula ได้ในระยะยาว.

 

การสืบค้น
พิจารณาทำในผู้ป่วยที่สงสัยทุกราย6 โดยการถ่ายภาพรังสีลำคอ (ด้วยเทคนิคเน้นแสดง soft tissue)4, ทรวงอก และช่องท้อง ทั้งท่าหน้าหลัง และท่าด้านข้าง เพื่อดูทั้งสิ่งแปลกปลอม (ชนิด, ตำแหน่ง, จำนวน) และภาวะแทรกซ้อน1 การถ่ายภาพรังสีในท่าด้านข้างของลำคอและทรวงอก จะช่วยแยกว่าวัตถุ อยู่ในทางเดินอาหารหรือทางเดินหายใจ

Copyright © 2019 – HealthCare Enterprises